คติความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง แรกเริ่มมนุษย์จะใช้การสังเกตจากสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติ เช่น เวลาล่าสัตว์ เหตุใดสัตว์บางตัวจึงคงทนจากอาวุธ, หรือพืชบางชนิด เมื่อมีไว้ติดตัวแล้วทำให้ปกป้องคุ้มครองและเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม, หินต่างๆ เมื่อครอบครองแล้วทำให้มีลาภสักการะ แม้กระทั่งดินในบางพื้นที่ เมื่ออยู่แล้วทำให้มั่งมีศรีสุข เป็นต้น ต่อมาก็มีการนำมาประยุกต์หรือเปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของยุคสมัย แต่ก็ยังคงสืบสานคติความเชื่อนั้นมาจนกลายเป็นความผูกพันในวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ไม่เว้นแม้ประเทศมหาอำนาจ
ประเทศไทยเรา เรื่อง ‘เครื่องรางของขลัง’ ถือเป็นความผูกพันและคติความเชื่อของสังคมมาช้านานตั้งแต่โบร่ำโบราณ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ คล้ายกับเป็นเกราะกำบังจิตใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของศัตรู หรือการกระทำทางธรรมชาติ หรือป้องกันภัยพิบัติต่างๆ และสิ่งนอกเหนือจากอำนาจที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
![]() |
![]() |
ส่วน ‘เครื่องรางของขลังประเภทแกะเป็นรูปสัตว์’ นั้น อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายๆ รูป นิยมสร้างเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งบางอย่างท่านก็ไม่ได้แกะเอง แต่วานช่างชาวบ้านช่วยแกะให้แล้วมาปลุกเสก หรือบางคนก็แกะมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ต่อมาเกิดอิทธิปาฏิหาริย์จึงกลายเป็นสิ่งมงคลที่ได้รับความนิยมสืบมา เช่น รูปลิง รูปสิงห์ รูปเสือ รูปแพะ เป็นต้น
และเหตุที่สร้างเครื่องรางของขลังเป็นรูปลักษณ์ของ ‘แพะ’ เพราะมีความเชื่อกันมาว่า แพะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีแพะแล้วไม่มีอาคมเวทมนตร์คาถาใดๆ จะมาทำคุณไสยเข้ากับตัวเจ้าของแพะได้ เพราะเข้ามาแล้วแพะจะรับไปเองและจะทำให้เจ้าของปลอดภัย อย่างเช่น ‘แพะเขาควายเผือกแกะ’ ที่ปลุกเสกโดย หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ต.หนองระลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
หลวงพ่ออ่ำ หรือ พระครูเทพสิทธา (อ่ำ) สุดยอดพระอาจารย์ยุคเก่าแห่งภาคตะวันออก เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก เมื่อปี พ.ศ.2431-2490 ที่ชาวบ้านทั้งไกลใกล้ให้ความเคารพนับถือมาก มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา อาทิ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ จ.ชลบุรี และ หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง เป็นต้น สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านมีชื่อเสียงมากในการสร้าง ‘เครื่องรางของขลังแพะ’ ซึ่งได้สืบทอดวิชาต่อมาจาก หลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา จนได้สมญาว่า ‘หลวงพ่ออ่ำแพะดัง’ และเป็นที่ต้องการของผู้เลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก
แพะหลวงพ่ออ่ำ สร้างจากเขาควายฟ้าผ่าตาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเขาอันนั้นได้รับพลังจากเทพ แล้วนำมาแกะเป็นแพะ ท่านบรรจุวิชาอาคมเวทมนตร์คาถาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา โดยวางไว้บนถาด บางทีก็แช่น้ำมันหอม น้ำมันว่านสมุนไพร น้ำมันจันทน์ พอท่านจะมอบให้แล้วจะทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง จนปรากฏว่าแพะที่วางไว้บนถาดหรือแช่ไว้ในน้ำมันนั้นเคลื่อนไหวเสมือนมีชีวิต ท่านจึงหยิบขึ้นมาจากโหลหรือขวด แจกกับบุคคลนั้น
คุณวิเศษของแพะตัวผู้หนึ่งตัว สามารถดูแลปกครองแพะตัวเมียได้เป็นสิบๆ ตัวด้วยความรู้รักสามัคคีและเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน จึงมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดมีแพะแกะจากเขาควายเผือกของหลวงพ่ออ่ำ ไว้พกพาผู้นั้นจะเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ และนักรักที่มีคนนิยมชมชอบมากมาย และมีเสน่ห์เมตตามหานิยมทุกด้าน
จากตำราสมุดข่อยที่คณาจารย์โบราณท่านได้จารึกไว้ว่า การสร้างแพะโดยใช้เขาควาย และเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเขานั้นจะได้รับพลังจากมหาเทพ คือ สวรรค์ทุกชั้น ทุกวิมาน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าในตัวแพะที่โดนฟ้าผ่าตายนั้นได้มีการพลีจากสรวงสวรรค์อีกด้วย พระเกจิอาจารย์และผู้มีวิชาอาคมหลายสำนักจึงได้นำมาเป็นวัสดุในการแกะเป็นรูปลักษณ์ของแพะ และว่ากันว่าผู้ที่มี ‘แพะหลวงพ่ออ่ำ’ ไว้อยู่ในความครอบครอง จะเป็นผู้ที่มั่งคั่งสมบูรณ์เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรืองและอายุยืนครับผม
คาถาบูชาแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก
ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าว ...
อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง อิมังคงกระพันธะนัง อธิฐามิ
และก่อนจะนำแพะหลวงพ่ออ่ำ มาสวมคอให้กล่าวพระคาถาดังนี้
อา กา เส จะ ปี ปัง กะ โร (คาถากันฟ้าผ่า)
โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์ แฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง
Share :
|
1 | 2 | 3 |